แชร์

การเขียนโปรแกรม ฝึก Soft Skills ได้ยังไงบ้าง? | Let’s BSD

อัพเดทล่าสุด: 27 ก.ย. 2025
4 ผู้เข้าชม

บทนำ

หลายคนมักเข้าใจว่า การเขียนโปรแกรม (Coding/Programming) เป็นเพียงทักษะเชิงเทคนิค ที่ใช้สำหรับสร้างซอฟต์แวร์ เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน แต่ความจริงแล้ว การเขียนโค้ดมีคุณค่ามากกว่านั้น เพราะมันยังช่วยพัฒนาทักษะที่เรียกว่า Soft Skills ซึ่งเป็นทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ การคิด และการสื่อสาร ที่จำเป็นต่อการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน

ในโลกการทำงานยุคใหม่ องค์กรไม่ได้มองหาคนที่มีแต่ทักษะเทคนิค แต่ต้องการคนที่มี Soft Skills ควบคู่ไปด้วย การเรียนรู้การเขียนโค้ดตั้งแต่อายุน้อย จึงเป็นโอกาสดีที่ช่วยเสริมทั้งความรู้ด้านเทคโนโลยีและพัฒนาทักษะชีวิตไปพร้อม ๆ กัน

Soft Skills คืออะไร?

Soft Skills คือทักษะที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรม ทัศนคติ และการทำงานร่วมกับผู้อื่น แตกต่างจาก Hard Skills ที่เป็นทักษะเฉพาะด้าน เช่น ความรู้ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ หรือทักษะการเขียนโค้ดโดยตรง

Soft Skills มักรวมถึงทักษะเหล่านี้:

  • การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking)
  • การแก้ปัญหา (Problem Solving)
  • การสื่อสาร (Communication)
  • ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
  • การจัดการเวลาและความรับผิดชอบ (Time Management & Responsibility)

การเขียนโปรแกรมกับการฝึก Soft Skills

การ เขียนโปรแกรม ไม่ได้สอนแค่ การใช้คอมพิวเตอร์ แต่เป็นการฝึกสมองและทักษะการใช้ชีวิตจริง ๆ ต่อไปนี้คือ Soft Skills หลัก ๆ ที่สามารถพัฒนาได้จากการเรียนโค้ดดิ้ง

1. การแก้ปัญหา (Problem Solving)

ทุกครั้งที่เขียนโปรแกรม จะต้องเจอปัญหา เช่น โค้ดรันไม่ได้ หรือผลลัพธ์ไม่ออกตามที่คิด การหาสาเหตุและการแก้ไขบั๊ก เป็นการฝึกให้เด็กและวัยรุ่นคิดหาทางออกอย่างเป็นระบบ ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ

การเผชิญกับบั๊กเล็ก ๆ เปรียบเสมือนการเผชิญกับปัญหาในชีวิตจริง ที่ต้องวิเคราะห์อย่างใจเย็นและหาทางแก้ไขที่เหมาะสม

2. การคิดเชิงตรรกะและเชิงวิพากษ์ (Logical & Critical Thinking)

โค้ดทุกบรรทัดต้องมีเหตุผล การ เขียนโปรแกรม สอนให้ผู้เรียนวางแผนเป็นขั้นตอน และตรวจสอบว่าเหตุผลของตนเองถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเป็นการฝึกการคิดอย่างมีระบบ และพัฒนาทักษะการตัดสินใจในอนาคต

3. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

การเขียนโค้ดไม่ได้จำกัดอยู่แค่โจทย์ในห้องเรียน แต่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ สร้างสิ่งใหม่ ๆ เช่น เกม เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันที่ตรงกับความสนใจของตัวเอง การที่เด็กสามารถเปลี่ยนไอเดียให้เป็นผลงานได้ จะทำให้พวกเขาเชื่อมั่นในความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองมากขึ้น

4. การสื่อสาร (Communication)

เวลาทำโปรเจกต์การเขียนโค้ด ผู้เรียนมักต้องอธิบายโค้ดหรือแนวคิดให้เพื่อนและครูฟัง สิ่งนี้ช่วยฝึกให้เด็กสื่อสารอย่างชัดเจน เข้าใจง่าย และใช้ภาษาที่เหมาะสม ทั้งการพูดและการเขียน

5. การจัดการเวลาและความรับผิดชอบ (Time Management & Responsibility)

โปรเจกต์เขียนโค้ดส่วนใหญ่มีเป้าหมายและเดดไลน์ การแบ่งเวลาเพื่อเรียนรู้ วางแผน และทำงานให้เสร็จตรงเวลา เป็นการฝึกวินัยและความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นทักษะที่องค์กรให้ความสำคัญมากในโลกการทำงาน

ตัวอย่างจริง: การเขียนโปรแกรมช่วยพัฒนาชีวิต

  • น้องพลอย (ประถมปลาย): เริ่มเรียนโค้ดดิ้งเพื่อสร้างเกมเล็ก ๆ เธอเจอปัญหาหลายครั้ง แต่ทุกครั้งที่แก้ได้ เธอก็มีความมั่นใจมากขึ้น และบอกว่าตอนนี้เธอ กลัวการเจอโจทย์คณิตน้อยลง เพราะคิดแบบโปรแกรมเมอร์ได้
  • น้องต้นกล้า (มัธยมต้น): ทำโปรเจกต์เว็บแอปกับเพื่อนในทีม 4 คน เขาเล่าว่าต้องฝึกสื่อสารและแบ่งงานอย่างจริงจัง เป็นครั้งแรกที่เข้าใจว่าการทำงานร่วมกับคนอื่นสำคัญแค่ไหน
  • น้องเจอาร์ (มัธยมปลาย): ชอบการวาดรูป แต่พอมาเรียนเขียนโปรแกรม เธอได้รวมงานศิลปะกับโค้ดเข้าด้วยกัน กลายเป็นเกมเล็ก ๆ ที่มีตัวละครที่เธอออกแบบเอง

ทำไมพ่อแม่ควรสนับสนุนลูกเรียนเขียนโปรแกรม

เป็นการลงทุนในอนาคตของลูก
ได้ทั้ง Hard Skills (ทักษะเทคนิค) และ Soft Skills (ทักษะชีวิต)
เปิดโอกาสในการเรียนต่อและการทำงาน
สร้างความมั่นใจและแรงบันดาลใจให้ลูกกล้าลองสิ่งใหม่

บทบาทของ Let's BSD

ที่ Let's BSD เราออกแบบหลักสูตรที่ไม่เพียงสอนให้เด็กและวัยรุ่นเขียนโปรแกรมได้ แต่ยังช่วยฝึก Soft Skills ไปพร้อมกัน

หลักสูตรมาตรฐานสากล: วางโครงสร้างชัดเจนจากพื้นฐานจนถึงการสร้างผลงานจริง
การเรียนแบบ Project-Based: ผู้เรียนได้ทำผลงานจริง เช่น เกม แอป หรือเว็บไซต์
ครูผู้เชี่ยวชาญดูแลใกล้ชิด: ตอบคำถามและแนะนำวิธีคิดเมื่อผู้เรียนเจอปัญหา
ชุมชนการเรียนรู้: เด็ก ๆ ได้ทำงานร่วมกับเพื่อนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

สรุป

การ เขียนโปรแกรม ไม่ได้เป็นเพียงการสอนให้เด็กใช้คอมพิวเตอร์ แต่คือการฝึกสมองและฝึกชีวิตจริง ผ่านการแก้ปัญหา การคิดเชิงตรรกะ การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และความคิดสร้างสรรค์

Soft Skills ที่เด็กได้จากการเรียนเขียนโปรแกรมจะติดตัวไปตลอดชีวิต และเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้พวกเขาพร้อมสำหรับโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยความท้าทาย



บทความที่เกี่ยวข้อง
This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy และ Cookies Policy
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ